งานเข้า!! ประดังประเด ทั้งงานแต่ง งานรับรางวัล งานเลี้ยงบริษัท เลี้ยงสังสรรค์ ประชุมตัวแทน รับปริญญาญาติ โอ๊ย ร้อยแปดพันเก้า หนุ่มๆ ทั้งหลายคงคิดแล้วว่าจะหยิบจะใส่อะไรให้เข้าท่า สมัยนี้ก็คงไม่พ้นชุดสูทนั่นเอง ซึ่งหากเราไม่ได้มีเงินในบัญชีธนาคารเหลือมากมาย การเช่าชุดสูทผู้ชายจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับทุกสภาพเศรษฐกิจ ชุดสูทเปรียบเสมือนหน้าตา เป็นสิ่งเสริมให้คุณดูดี สร้างให้คุณมีได้หลากบุคลิก บางท่านไม่ทราบเลยว่าจะต้องเริ่มต้นเลือกชุดสูทกันอย่างไร คุณผู้ชายทั้งหลายอย่าเพิ่งปวดหัว วันนี้เราสรุปสิ่งจำเป็นในการเลือกเช่าชุดสูทผู้ชายมาไว้ให้ท่านแล้ว
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักสูทประเภทต่างๆ กัน
ประเภทของสูท
แบบที่ 1 คือ สูทแบบเป็นทางการ (Formal Suit) ส่วนใหญ่เป็นสูทคุณภาพอย่างดีจากผ้าขนสัตว์ (Wool) หรืออาจผสมด้วยเนื้อผ้าอื่น เน้นความดูดี หรูหรา สำหรับใส่ในวันสำคัญ หรือโอกาสพิเศษต่างๆ เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง เช่น การประชุมสำคัญ งานเลี้ยงหรือในโอกาสที่ต้องพบปะกับลูกค้า
แบบที่ 2 คือ สูทสบายสไตล์ลำลอง (Casual Suit) เป็นสูทที่ใช้ผ้าอื่นที่ไม่ใช่ขนสัตว์เป็นหลักทำให้มีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ซักเองที่บ้านได้ ใส่สบายและมีฟังก์ชั่นครบในสไตล์ลำลอง ดูทันสมัยแบบวัยรุ่น สามารถใส่ทำงาน หรือ ไปงานที่ไม่เป็นทางการนัก คุณสามารถ Mix&Match กับกางเกงยีนส์ตัวโปรดได้อย่างง่ายดาย
แบบที่ 3 คือ ทักซิโด้ (Tuxedos) นับว่าเป็นสูทที่เป็นทางการที่สุดของบรรดาชุดสูทผู้ชายทั้งหมดที่ใส่กัน ความแตกต่างระหว่างทักซิโด้กับสูททั่วไปจะต่างกันตรงเนื้อผ้าของปก กระดุมของทักซิโด้มักหุ้มด้วยผ้าเดียวกันกับตัวปก และงานที่ต้องการความเป็นทางการมากๆ ก็จะมีตกแต่งบริเวณแถบข้างกางเกงด้วย โดย 3 อย่างที่กล่าวมานั้นนิยมใช้ผ้าซาติน หรือผ้าไหม เพื่อเพิ่มความแตกต่างจากตัวสูทเพราะเนื้อผ้าดังกล่าวนั้นจะมีความมันวาว จึงทำให้สูทสไตล์นี้ดูโดดเด่นขึ้นมา ทั้งนี้สามารถใส่ร่วมกับผ้าคาดเอว (Cummerbund) ที่เป็นสีเดียวกันหรือเข้มกว่าทำจากผ้าซาตินหรือผ้าไหมเพื่อเพิ่มความหรูหราขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง และทักซิโด้มักจะใส่คู่กับหูกระต่ายเท่านั้น ส่วนมากสูททักซิโด้จะใช้สำหรับงานสังสรรค์ที่เป็นทางการมากๆ งานกาล่าดินเนอร์ หรืองานที่ต้องการความพิเศษในวาระต่างๆ
สไตล์ของสูท
ความนิยมของแบบสูทผู้ชายในปัจจุบัน มีรากฐานอยู่ด้วยกัน 3 สไตล์ นั่นคือ สูทสไตล์อเมริกัน (American Suit), สูทสไตล์อังกฤษ (British Suit) และสูทสไตล์อิตาลี (Italian Suit) โดย be i Am ได้จำแนกความแตกต่างของสูททั้ง 3 แบบไว้ตามรูป
โดยสรุปแล้ว อเมริกันสไตล์จะเน้นถึงความสะดวกสบายในการทำงานดังนั้นรูปทรงของสูทจะทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวกว่าแบบอื่นๆ ส่วนแบบอังกฤษจะเน้นความเรียบหรู ผู้ดี เหมาะกับงานทางการ สุดท้ายแบบอิตาลีนั้นจะเน้นแฟชั่นและการตัดเย็บเน้นเข้ารูปแบบสลิมฟิต
กระดุมสูท
มีมาตรฐานอยู่ 4 แบบด้วยกัน
กระดุม 1 เม็ด (One-button suit) : เสื้อสูททรงกระดุม1เม็ด จะเป็นแนวสูทแบบเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น เพราะจะดูทันสมัย โดยเน้นช่วงอกที่จะมีความยาวเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถโชว์เสื้อใส่อยู่ด้านใน มักกับเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อคอกลม คอเต่า เพิ่มความโดดเด่น
กระดุม 2 เม็ดแถวเดียว (Single breasted 2 button suit) : เป็นรูปแบบกระดุมคลาสสิค คอเสื้อของสูทยาวลงมาเป็นรูปตัววีแต่จะตื้นกว่าแบบกระดุมหนึ่งเม็ดเล็กน้อย ดูเป็นทางการ เหมาะจะใส่ไปในโอกาสต่างๆ
กระดุม 3 เม็ดแถวเดียว (Single breasted 3 button suit) : ทำให้ดูมีช่วงตัวที่ยาวขึ้นเหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ โดยมากแล้วมักออกแบบมาให้กลัดเฉพาะสองเม็ดบน เหมาะกับคนรูปร่างสมาร์ทสูงใหญ่ไหล่กว้าง
กระดุมสองแถว (Double breasted suit) : ให้นึกถึงสูทของสุภาพบุรุษชาวอังกฤษนิยมซึ่งมีกระดุมทั้งหมดหกเม็ด แต่มักติดจริงเพียงสองเม็ด ตัวสูทแหวกด้านข้าง กระเป๋าล่างซ้ายขวามีฝาปิดและมีกระเป๋าเจาะที่หน้าอกหนึ่งที่ เหมาะกับคนที่มีที่รูปร่างผอม
การกลัดกระดุมสูท
กลัดกระดุมเม็ดบนเสมอสำหรับสูท กระดุม 1 เม็ด และกระดุม 2 เม็ด
กลัดเม็ดสองเสมอสำหรับสูทกระดุม 3 เม็ด เม็ดแรกแล้วแต่จะกลัดหรือไม่กลัดก็ได้
เม็ดล่างของทุกแบบไม่กลัดเลย
คอปกสูท
ที่นิยมมีอยู่ 3 รูปแบบ
ปกแบบที่1 แบบหยัก (Notch Lapel) เรียกว่าปกแบบนี้คือแบบมาตรฐาน ให้ความรู้สึกเป็นกลาง เป็นปกที่มีความคลาสสิคซึ่งใครๆ ก็สามารถใส่ได้อย่างปลอดภัยสามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส มันคือปกสูทที่เป็นที่นิยมที่สุด
ปกแบบที่2 แบบยอด (Peak Lapel) ใช้กันมากสำหรับสูทแบบกระดุมสองแถว (double-breasted) อย่างไรก็ตามสูทแบบกระดุมแถวเดียว (single breasted) ก็สามารถใช้ปกสูทแบบนี้ได้เช่นกัน ลักษณะเด่นคือตรงปลายของปกจะชี้ขึ้นไปยังช่วงไหล่ของเสื้อสูท เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความแตกต่างและโดดเด่น ดูเป็นทางการมากกว่าสูทที่มีปกแบบหยัก
ปกแบบที่3 แบบคลุมไหล่ หรือ แบบกล้วยหอม (Shawl Lapel) เป็นปกสูทที่ทำจากผ้าชิ้นเดียว มีรูปร่างโค้ง ไม่มีรอยเย็บรอยหยักใดๆทั้งสิ้น รูปร่างหน้าตาจึงออกมาคล้าย “กล้วย” ดูเรียบร้อย และเป็นทางการมากที่สุดในบรรดาปกสูททั้งสามแบบ ปกสูทแบบนี้จึงกลายเป็นปกที่นิยมใช้บนชุดทักซิโด้สำหรับงานเลี้ยงหรูหราที่มีความเป็นทางการสูง
เมื่อเรารู้เกี่ยวกับประเภท และรูปแบบต่างๆ ของสูท แล้วนั้นคราวนี้เรามาเลือกชุดสูทให้เหมาะกับเราได้เลย…
การเลือกเช่าสูทผู้ชายให้เหมาะกับรูปร่าง
การเลือกชุดสูทให้ดีและเหมาะสมกับเรานั้น จะต้องรู้จักรูปร่าง สัดส่วนของตนเองเพื่อให้การเลือกชุดสูทเหมาะสมใส่แล้วดูดี เสริมความมั่นใจ แต่ละคนมีรูปร่างไม่เหมือนกันก็จะมีเคล็ดลับการเลือกชุดสูทผู้ชายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในวันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับการเลือกเช่าสูทผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณ
ถ้าคุณเป็นผู้ชายรูปร่างแบบเบอร์ 1 – 3 เราก็ขอปรบมือให้ เพราะคุณรักษารูปร่างสัดส่วนไว้ได้ดีมาก แต่งกายอย่างไรก็ดูดี แต่เช่นกันถ้ามันรัด Skinny จนเกินงามมันก็ดูไม่สวย และถ้าหลวมโครกเกินไปมันก็ดูไม่ดีอีกเช่นกัน
แต่ถ้าท่านเป็นผู้ชายในรูป 4 และ 5 ก็อย่าเพิ่งเสียใจ เรามีวิธีรับมือกับการพรางพุงของท่าน คือ ให้ใส่เสื้อสูททรงพอดีช่วงอกและไหล่หลวมนิดหน่อยได้ ช่วงลำตัวเน้นเข้ารูปแต่ไม่รัดจนเกินไป ใช้สูทลายทางยาวก็สามารถช่วยได้ รวมถึงสูทสีเข้ม เช่น ดำ น้ำเงิน น้ำตาลเข้ม ก็เป็นอีกแนวทางที่คุณผู้ชายหุ่นพ่อหมีใช้เป็นเคล็ดลับ
ความพอดีของสูท
จากที่สรุปหลักการเลือกเช่าสูทผู้ชายให้ท่านๆ ได้ทราบกัน ตอนนี้คุณคงอยากที่จะลองเลือกสูทในแบบของคุณเองแล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณได้สูทที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพ ใส่แล้วดูดีมีชาติตระกูล กล้าที่จะออกไปในกิจกรรมต่างๆ ใส่ออกงาน หรือแม้กระทั่งใส่ไปงานแฟชั่นหรูๆ เท่ๆ นั่นก็คือร้านเช่าสูทผู้ชายที่สามารถให้คุณได้เลือกสูทที่ดูดี มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ซึ่ง be i Am เป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับท่านสุภาพบุรุษเสมอ